เศร้าใจกับความแตกแยกของสังคมที่ไม่ว่าใครก็ไกล่เกลี่ยยากมาก ต่อให้เป็นเจ้าตัวผู้วางแผนสร้างความแตกแยกเพื่อหวังผลมวลชนที่เป็นกลุ่มก้อนและรุนแรงก็ตาม เพราะตอนนี้ความแตกร้าวได้ลงลึกและลุกลามจนควบคุมไม่ได้แล้ว
เมื่อวานนี้ผมไปทำธุระแถวๆเยาวราชแล้วถือโอกาสเดินสำรวจสภาพธุรกิจแถวนั้น เดินตั้งแต่ช่วงตลาดเก่าถนนเยาวราชแล้วเลี้ยวผ่านถนนมังกรข้างๆคาเธ่ย์ ทะลุออกถนนเจริญกรุงแล้วย้อนเรื่อยมาผ่านวัดเล่งเน่ยยี่ผ่านแยกเฉลิมบุรีจนถึงหัวลำโพง ตลอดทางที่ผ่านได้ยินเสียงแม่ค้าริมถนนวิพากษ์วิจารณ์ด่าทักษิณเป็นส่วนใหญ่ แทบไม่ได้ยินคำอื่นนอกจากคำว่า "ทักษิณ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวัดเล่งเน่ยยี่มีชายอายุประมาณ 40 กว่าๆขับมอเตอร์ไซค์มีธงชาติปักที่แฮนด์ท้ายรถติดป้ายข้อความเขียนด้วยลายมือว่า "เป็นกบฏต่อชาติ ดีกว่าเป็นทาสนายทุน".....สรุปว่าเยาวราชแทบทั้งย่านคือชุมชนต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ขากลับจากเยาวราชผมใช้รถไฟฟ้า MRT บนรถมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังคุยโทรศัพท์ เข้าใจว่าเธอกำลังคุยกับอาจารย์ของเธอเพราะได้ยินว่ากำลังขอเอกสารรับรองเพื่อยื่นขอเรียนต่อที่สถาบันแห่งหนึ่ง เธอบอกกับอาจารย์ว่าโรงแรมที่เธอทำงานนั้นอยู่สี่แยกที่ม็อบตั้งอยู่เลย ตอนนี้แทบจะร้างเพราะไม่มีแขกเข้าพัก แต่ตัวเธอเองนั้นพอเลิกงานแล้วจะไปร่วมม็อบตลอด เธอใช้คำว่า "อยากไปนั่งทุกวันเลย"
และก็เมื่อวานเช่นกันที่ผมได้คุยหารือกับบริษัทที่รับทำบัญชีแห่งหนึ่ง พอจบธุระที่คุยก็บ่นกันถึงสถานการณ์ธุรกิจที่แย่กันไปทั่วแล้วตอนนี้ คนทำบัญชีคนนั้นด่ายิ่งลักษณ์ให้ผมฟังว่าหน้าด้านที่ไม่ยอมลาออกดทั้งๆที่คนออกมาไล่ขนาดนี้ ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่กันไปหมด ผมเองก็ฉุนขึ้นมาทันทีแต่ยังพยายามอดกลั้นไม่โต้ตอบอะไร
ที่สะดุดหูก็คือเธอเล่าให้ฟังว่ามีลูกค้าสำนักงานรายหนึ่งทำเสื้อยืดขายในม็อบ ขายดีมากจนผลิตไม่ทันและกำไรก็งามมากจนถึงขนาดเอาเงินไปบริจาคให้กับม็อบกปปส.ได้ถึง 7 ล้านบาทแล้ว และยังคงตั้งใจจะบริจาคต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
.................................................................................................................................................................................
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ลูกน้องของผมซึ่งดูแลสวนให้ที่อ.กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรีเล่าให้ฟังทางโทรศัพท์ว่า มีอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ไปชักชวนให้เกษตรกรละแวกนั้นไปร่วมม็อบ เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้แถววัดท่าข่อยบอกว่าถ้าไปเช้าเย็นกลับได้วันละ 1,000 บาท ถ้าค้างคืน (ที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ได้ 1,500 บาท และถ้ากลับเย็นวันรุ่งขึ้นจะได้ 2,000 บาท มีรถตู้มารับถึงจุดนัดพบแถวๆวัดท่าข่อย
ลูกน้องผมเล่าว่าขนาดเดี๋ยวนี้อิทธิพลของประชาธิปัตย์ลดลงเพราะพรรคชาติพัฒนายึดพื้นที่ได้ กับ "ปุ๋ยยิ่งลักษณ์" ที่เริ่มซื้อใจคนท้องถิ่นได้หลายส่วนจนทำให้พวกเสื้อเหลืองแถวนั้นที่เคยแรงมาก่อนได้ลดกระแสลงมากแล้ว ก็ยังมีคนวนเวียนไปรับเงินที่ม็อบกันอย่างต่อเนื่อง บางคนไม่กล้าบอกพ่อแม่ว่าจะไปม็อบก็บอกเพื่อนให้รู้จะได้คอยแก้ตัวให้เพราะกลัวผู้เฒ่าห้ามไม่ให้ไป
เพราะฉะนั้นที่คิดว่าสังคมไทยจะหันหน้าเข้าหากันอย่างสมานฉันท์อีกครั้งนั้น โอกาสแทบจะเป็นศูนย์เพราะกำลังจะสายเกินการณ์แล้วครับ เพราะมีทั้งส่วนที่มุ่งมั่นด้วยความเชื่อที่ฝังลึกตรึงแน่นและส่วนที่ถูกสร้างด้วยทุนหนุนม็อบซึ่งมีไม่จำกัด
..................................................................................................................................................................................
ภายในวันเดียวที่ได้รับรู้เรื่องพวกนี้ ผมยอมรับว่าจิตใจเศร้าหมองกับความโลภในอำนาจและความรักของคนบางชนชั้น ที่พยายามทำทุกอย่างที่แม้จะผิดหลักธรรมชาติและหลักนิติรัฐด้วยความกลัวว่าจะสูญเสียไป พยายามหยุดโลกรอบๆตัวให้อยู่กับที่โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบใดๆที่จะตามมา จากที่เคยหัวเราะและมองเห็นว่าความคิดอยากแยกสังคมเป็นเรื่องไร้สาระของกลุ่มคนที่คิดตื้นๆ วันนี้ผมเริ่มมองเห็นลางร้ายบางอย่างชัดขึ้นกว่าเดิม เพราะทุกอย่างจะเริ่มจากสังคมที่เลือกข้าง
จึงอยากภาวนาให้มีอะไรบางอย่างดลใจให้ใครบางคนได้คิดสักทีว่า ขณะนี้พวกคุณกำลังทำอะไรที่จะต้องเสียใจและสูญเสียอย่างรุนแรงในภายหลังอยู่ อย่านึกว่าด้วยทุนศรัทธาและเงินทุนจะมีให้ใช้โดยไม่รู้จักหมด เพราะ "ชาติคือประชาชน" ถ้าประชาชนแตกแยกจนประสานไม่ติดก็ไม่มีชาติให้ยึดมั่นถือมั่นอีกต่อไป
เสียงด่าทักษิณที่เยาวราชและกองหนุนด้วยทุนจากกบินทร์
เมื่อวานนี้ผมไปทำธุระแถวๆเยาวราชแล้วถือโอกาสเดินสำรวจสภาพธุรกิจแถวนั้น เดินตั้งแต่ช่วงตลาดเก่าถนนเยาวราชแล้วเลี้ยวผ่านถนนมังกรข้างๆคาเธ่ย์ ทะลุออกถนนเจริญกรุงแล้วย้อนเรื่อยมาผ่านวัดเล่งเน่ยยี่ผ่านแยกเฉลิมบุรีจนถึงหัวลำโพง ตลอดทางที่ผ่านได้ยินเสียงแม่ค้าริมถนนวิพากษ์วิจารณ์ด่าทักษิณเป็นส่วนใหญ่ แทบไม่ได้ยินคำอื่นนอกจากคำว่า "ทักษิณ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวัดเล่งเน่ยยี่มีชายอายุประมาณ 40 กว่าๆขับมอเตอร์ไซค์มีธงชาติปักที่แฮนด์ท้ายรถติดป้ายข้อความเขียนด้วยลายมือว่า "เป็นกบฏต่อชาติ ดีกว่าเป็นทาสนายทุน".....สรุปว่าเยาวราชแทบทั้งย่านคือชุมชนต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ขากลับจากเยาวราชผมใช้รถไฟฟ้า MRT บนรถมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังคุยโทรศัพท์ เข้าใจว่าเธอกำลังคุยกับอาจารย์ของเธอเพราะได้ยินว่ากำลังขอเอกสารรับรองเพื่อยื่นขอเรียนต่อที่สถาบันแห่งหนึ่ง เธอบอกกับอาจารย์ว่าโรงแรมที่เธอทำงานนั้นอยู่สี่แยกที่ม็อบตั้งอยู่เลย ตอนนี้แทบจะร้างเพราะไม่มีแขกเข้าพัก แต่ตัวเธอเองนั้นพอเลิกงานแล้วจะไปร่วมม็อบตลอด เธอใช้คำว่า "อยากไปนั่งทุกวันเลย"
และก็เมื่อวานเช่นกันที่ผมได้คุยหารือกับบริษัทที่รับทำบัญชีแห่งหนึ่ง พอจบธุระที่คุยก็บ่นกันถึงสถานการณ์ธุรกิจที่แย่กันไปทั่วแล้วตอนนี้ คนทำบัญชีคนนั้นด่ายิ่งลักษณ์ให้ผมฟังว่าหน้าด้านที่ไม่ยอมลาออกดทั้งๆที่คนออกมาไล่ขนาดนี้ ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่กันไปหมด ผมเองก็ฉุนขึ้นมาทันทีแต่ยังพยายามอดกลั้นไม่โต้ตอบอะไร
ที่สะดุดหูก็คือเธอเล่าให้ฟังว่ามีลูกค้าสำนักงานรายหนึ่งทำเสื้อยืดขายในม็อบ ขายดีมากจนผลิตไม่ทันและกำไรก็งามมากจนถึงขนาดเอาเงินไปบริจาคให้กับม็อบกปปส.ได้ถึง 7 ล้านบาทแล้ว และยังคงตั้งใจจะบริจาคต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
.................................................................................................................................................................................
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ลูกน้องของผมซึ่งดูแลสวนให้ที่อ.กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรีเล่าให้ฟังทางโทรศัพท์ว่า มีอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ไปชักชวนให้เกษตรกรละแวกนั้นไปร่วมม็อบ เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้แถววัดท่าข่อยบอกว่าถ้าไปเช้าเย็นกลับได้วันละ 1,000 บาท ถ้าค้างคืน (ที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ได้ 1,500 บาท และถ้ากลับเย็นวันรุ่งขึ้นจะได้ 2,000 บาท มีรถตู้มารับถึงจุดนัดพบแถวๆวัดท่าข่อย
ลูกน้องผมเล่าว่าขนาดเดี๋ยวนี้อิทธิพลของประชาธิปัตย์ลดลงเพราะพรรคชาติพัฒนายึดพื้นที่ได้ กับ "ปุ๋ยยิ่งลักษณ์" ที่เริ่มซื้อใจคนท้องถิ่นได้หลายส่วนจนทำให้พวกเสื้อเหลืองแถวนั้นที่เคยแรงมาก่อนได้ลดกระแสลงมากแล้ว ก็ยังมีคนวนเวียนไปรับเงินที่ม็อบกันอย่างต่อเนื่อง บางคนไม่กล้าบอกพ่อแม่ว่าจะไปม็อบก็บอกเพื่อนให้รู้จะได้คอยแก้ตัวให้เพราะกลัวผู้เฒ่าห้ามไม่ให้ไป
เพราะฉะนั้นที่คิดว่าสังคมไทยจะหันหน้าเข้าหากันอย่างสมานฉันท์อีกครั้งนั้น โอกาสแทบจะเป็นศูนย์เพราะกำลังจะสายเกินการณ์แล้วครับ เพราะมีทั้งส่วนที่มุ่งมั่นด้วยความเชื่อที่ฝังลึกตรึงแน่นและส่วนที่ถูกสร้างด้วยทุนหนุนม็อบซึ่งมีไม่จำกัด
..................................................................................................................................................................................
ภายในวันเดียวที่ได้รับรู้เรื่องพวกนี้ ผมยอมรับว่าจิตใจเศร้าหมองกับความโลภในอำนาจและความรักของคนบางชนชั้น ที่พยายามทำทุกอย่างที่แม้จะผิดหลักธรรมชาติและหลักนิติรัฐด้วยความกลัวว่าจะสูญเสียไป พยายามหยุดโลกรอบๆตัวให้อยู่กับที่โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบใดๆที่จะตามมา จากที่เคยหัวเราะและมองเห็นว่าความคิดอยากแยกสังคมเป็นเรื่องไร้สาระของกลุ่มคนที่คิดตื้นๆ วันนี้ผมเริ่มมองเห็นลางร้ายบางอย่างชัดขึ้นกว่าเดิม เพราะทุกอย่างจะเริ่มจากสังคมที่เลือกข้าง
จึงอยากภาวนาให้มีอะไรบางอย่างดลใจให้ใครบางคนได้คิดสักทีว่า ขณะนี้พวกคุณกำลังทำอะไรที่จะต้องเสียใจและสูญเสียอย่างรุนแรงในภายหลังอยู่ อย่านึกว่าด้วยทุนศรัทธาและเงินทุนจะมีให้ใช้โดยไม่รู้จักหมด เพราะ "ชาติคือประชาชน" ถ้าประชาชนแตกแยกจนประสานไม่ติดก็ไม่มีชาติให้ยึดมั่นถือมั่นอีกต่อไป